ผู้พิพากษาสหรัฐฯ ประกาศจำกัดไม่ให้หน่วยงานบางส่วนและเจ้าหน้าที่ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้าร่วมประชุมและติดต่อกับบริษัทโซเชียลมีเดียบางแห่ง เพื่อขอให้บริษัทเหล่านั้นแก้ไขเนื้อหา หลังมีการยื่นเรื่องต่อศาลกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลบางคน ใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบในการโน้มน้าวให้บริษัทโซเชียลมีเดีย แก้ไขบางโพสต์ที่พวกเขาเป็นกังวลว่า อาจจะไปสร้างความลังเลให้แก่ประชาชนในการเข้ารับวัคซีนโควิด 19 ในช่วงที่โควิดระบาดหนักๆ หรือบางโพสต์ที่อาจจะส่งผลต่อการเลือกตั้ง
ด้านผู้พิพากษาแถลงว่า หน่วยงานบางหน่วยงานของรัฐบาล เช่น กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ และเอฟบีไอ ไม่สามารถไปคุยกับบริษัทโซเชียลมีเดยได้ ด้วยวัตถุประสงค์ในการกระตุ้น โน้มน้าว กดดัน หรือชักจูงในทุกรูปแบบ เพื่อให้บริษัทนั้น ๆ ถอด ลบ ระงับ หรือลด จำนวนเนื้อหาที่เป็นการพิทักษ์เสรีภาพในการพูด
สำหรับกรณีดังกล่าว นายอีริค ชมิตต์ อดีตอัยการสูงสุดของรัฐมิสซูรี และนายเจฟฟ์ แลนดรี อัยการสูงสุดของรัฐหลุยเซียน่า ซึ่งทั้งสองคนเป็นสมาชิกพรครีพับลิกัน และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ยื่นเรื่องต่อศาล และทั้งคู่ได้ทวิตข้อความแสดงความยินดีที่ศาลมีคำสั่งดังกล่าวออกมา และเรียกชัยชนะในครั้งนี้ว่าเป็นชัยชนะของเสรีภาพในการพูด
นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวที่ห้ามเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯติดต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย ยังระบุถึงชื่อของ อเลฮานโดร มายอร์กาส รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ และเจน อีสเตอร์ลีผู้อำนวยการของสำนักงานความมั่นคงทางไซเบอร์และความมั่นคงทางโครงสร้างพื้นฐานคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อย่างไรก็ตาม ในคำสั่งห้ามดังกล่าว ศาลอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลสามารถติดต่อสื่อสารกับบริษัทโซเชียลมีเดียได้ในบางกรณี เช่น เมื่อต้องการเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ และกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรม
พบผงต้องสงสัยในทำเนียบขาว ทำอพยพวุ่น ตรวจแล้วเป็น "โคเคน"
ญี่ปุ่นเตรียมปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงทะเล ส.ค.นี้
มัสก์-ซัคเคอร์เบิร์ก แชมป์มหาเศรษฐีรวยขึ้นมากสุดในโลก